ปั๊มจุ่มและเครื่องเติมอากาศมีการใช้กันโดยทั่วไปในระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเครื่องเติมอากาศนั้น จะมีทั้งแบบที่อยู่บนบก และปั๊มเติมอากาศที่อยู่ใต้น้ำ โดยลักษณะของปั๊มจุ่ม และปั๊มเติมอากาศใต้น้ำมีลักษณะที่คล้ายกัน แต่มีวัตถุประสงค์ในการใช้ และลักษณะการทำงานที่ต่างกัน
ปั๊มจุ่ม เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อย้ายน้ำเสียจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยทั่วไปจะจมอยู่ด้านล่างในระบบบำบัด หน้าที่หลักของปั๊มจุ่มในการบำบัดน้ำเสีย คือ การขนส่งน้ำเสียจากพื้นที่ต่ำไปยังที่สูง หรือจากกระบวนการบำบัดหนึ่งไปยังอีกกระบวนการหนึ่ง ใช้เพื่อสูบน้ำเสียผ่านขั้นตอนการบำบัดต่างๆ ได้รับการออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้ายของของแข็งและของเหลว รวมทั้งสารแขวนลอยและสารอินทรีย์ที่พบในน้ำเสีย โดยมีการเลือกใช้ใบพัดที่สร้างแรงดันและการไหลที่เหมาะต่อชนิดของตะกอนที่ต้องการสูบ ปั๊มเหล่านี้มักใช้ในโรงบำบัดน้ำเสีย สถานีสูบน้ำ และงานอุตสาหกรรม เพื่อให้น้ำเสียผ่านกระบวนการบำบัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตำแหน่งการทำงานของปั๊มจุ่มในระบบบำบัดน้ำเสีย
เครื่องเติมอากาศ เป็นอุปกรณ์ที่เคลื่อนย้ายอากาศจากด้านบนลงในน้ำเสีย ส่วนใหญ่จะใช้ในกระบวนการบำบัดทางชีวภาพของโรงบำบัดน้ำเสีย วัตถุประสงค์หลักของเครื่องเติมอากาศ คือ เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ใช้ออกซิเจน ซึ่งมีหน้าที่ทำลายสารอินทรีย์และสารมลพิษในน้ำเสีย ในกระบวนการเติมอากาศเป็นการถ่ายเทออกซิเจนจากอากาศไปยังน้ำเสีย แบคทีเรียที่ใช้ออกซิเจนสามารถเจริญเติบโตและดำเนินการย่อยสลายทางชีวภาพของมลพิษอินทรีย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการนี้ช่วยลดระดับของสารประกอบอินทรีย์ เช่น สารคาร์บอนและไนโตรเจนที่มีอยู่ในน้ำเสีย
ตำแหน่งการทำงานของเครื่องเติมอากาศในระบบบำบัดน้ำเสีย
โดยเครื่องเติมอากาศมี 2 รูปแบบ คือ
โดยสรุป ปั๊มจุ่มใช้สำหรับการเคลื่อนที่ของน้ำเสียจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ในขณะที่เครื่องเติมอากาศใช้เพื่อเติมออกซิเจนเข้าไปในน้ำเสียเพื่อให้จุลินทรีย์เจริญเติบโต ทั้งสองอย่างนี้มีความสำคัญในกระบวนการบำบัดน้ำเสีย โดยแตกต่างกันที่หน้าที่และการใช้งาน
รับชมวีดิโอ : ระบบน้ำในอาคารและปั๊มจุ่มที่ใช้ในระบบบำบัดน้ำเสีย